ผมมีประสบการณ์ด้านการพูดต่อหน้าที่ชุมชน และการฝึกอบรมที่หลากหลาย
ตั้งแต่ ให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัว ไปจนถึง ➜ การพูดบนเวที กับผู้ชมหลักพัน
ปีนี้ผมมีแรงบันดาลใจ ที่จะแบ่งปัน เทคนิคง่ายๆ เพื่อสร้างผลลัพธ์ด้านการพูด ให้กับผู้คน สัปดาห์ละ 1 ข้อ
และนี่คือ การแบ่งปันสิ่งที่ผมชำนาญ ช่วงท้ายของปีที่ผ่านมา ของผมครับ
EP. 33: เวที . . . มีอยู่ทุกที่
EP. 34: นี่ … นั่น … โน่น
EP. 35: การฟัง ของเราไม่เท่ากัน
EP. 36: เนื้อหา ปะทะ ลีลา
EP. 33: เวที . . . มีอยู่ทุกที่
หลายคนเข้าใจผิดว่าการพูดใน
คือต้องพูดกับคนเยอะๆ
จริงๆแล้วการพูดกับคน “มากกว่าหนึ่งคน”
ก็ถือว่าเป็นการพูด ต่อหน้าที่ชุมชนแล้ว
จำนวนไม่ว่าจะ 2 คน 10 คน 100 คน หรือ 1000 คน
จุดที่แตกต่างหลักๆ คือ
การใช้พลังงานของผู้พูด ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
แต่บอกได้เลย ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่
เราก็จำเป็นจะต้องใส่ใจเรื่
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ
• คำพูด: ต้องชัดเจน เห็นภาพและสื่อความหมาย
• น้ำเสียง: ต้องสัมพันธ์กับอารมณ์และ ความรู้สึก ของ เนื้อหาที่เราพูด
• ท่าทาง: ต้องมีความหมาย สอดคล้องและส่งเสริม ให้เรื่องที่พูด มีความโดดเด่น มากยิ่งขึ้น
ดังนั้นนักพูดและนักนำเสนอที่ดีไม่ควรเกี่ยงว่า เวทีที่จะขึ้นพูดนั้น มีขนาดเล็กหรือใหญ่ เราต้องเต็มที่กับทุกๆ เวที
ที่สำคัญ หากมีโอกาสเราควรฝึกฝีมืออยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความคุ้นชินและ
เพราะในหลายๆ ครั้งการมองข้ามเวทีเล็กๆ อาจจะส่งผลให้เรา ตกม้าตาย บนเวทีใหญ่ใหญ่ได้
EP. 34: นี่ … นั่น … โน่น
มีคนกล่าวว่า “ความไม่ชัดเจนนำมาซึ่งความยุ่งเหยิง”
ถูกต้องเลยครับหลายๆ ครั้งในชีวิตของเรา
ความไม่ชัดเจนจะทำให้เกิด ความไม่เข้าใจ ความสับสนและ นำปัญหามาให้เราได้อย่างต่อเนื่อง
ในการพูดก็เช่นเดียวกันครับ สังเกตสิว่าหลายๆคน
ชอบใช้คำว่า ไอ้นั่น ไอ้นี่ ไอ้โน่น อย่างงั้น อย่างงี้
เช่น ทำแบบนี้มันไม่ดี (แบบนี้ คือ แบบไหน?)
หรือ ไปหยิบงานชิ้นนั้น จากตรงโน้น (ชิ้นไหน? ตรงไหน?)
การใช้คำที่ไม่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง
จะทำให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง
โชคดีหน่อย หากผู้ฟังสอบถาม เพื่อตรวจสอบความเข้าใจ
แต่ถ้าโชคร้าย ผู้ฟังอาจจะคิดเองเออเอง และลงมือทำบางสิ่งบางอย่างแบบที่เข้าใจผิดๆ ก็ได้
ในการสื่อสาร การพูดที่มีประเด็น สั้นกระชับ ชัดเจน จึงมีผลกระทบมากๆ ในการสื่อสาร
และจะสุดยอดมากๆ หารเราเลือกคำที่ทำเกิดภาพที่คมชัดให้จินตนาการของผู้ฟัง
EP. 35: การฟัง ของเราไม่เท่ากัน
ซูวู กล่าวว่า “รู้เขา รู้เรา รบ 100 ครั้ง ชนะ 100 ครั้ง”
ในโลกของการพูดคำว่า พูดแบบเดียว วิธีการเดียว (One Fit All) แล้วทุกคนชื่นชอบ คงจะเป็นไปได้ยาก
เนื่องจากพื้นที่การฟังของคนแต่ละคน
นั้นแตกต่างกันไปตามจริต หรือความชื่นชอบของพวกเขา
ดังนั้นถ้าเราต้องการทำให้ผู้ฟังสนใจ การพูดของเราจำเป็นที่จะต้องปรับตามความสนใจของผู้ฟัง
หากอ้างอิงตามทฤษฎี DISC คน
แต่ละคนจะมีจริตหรือความชื่นชอบในการฟังที่แตกต่างกัน
******************
คนประเภทแรก D = Dominance
คนเหล่านี้ ใส่ใจเรื่องผลลัพธ์
ดังนั้นการพูดให้คนเหล่านี้ฟังควรจะต้อง
มีเนื้อหา สั้น กระชับ ตรงประเด็น
ลีลาและน้ำเสียง เข้มแแข็ง ขึงขัง จริงจัง
******************
ประเภทที่สอง I = Influence
คนเหล่านี้ ใส่ใจเรื่องความสนุกสนาน
ดังนั้นการพูดให้คนเหล่านี้ฟังควรจะต้อง
มีเนื้อหา สนุกสนาน รื่นเริงบันเทิงใจ มีมุขตลก
ลีลาและน้ำเสียง สดชื่น แจ่มใส คล่องแคล่ว
******************
ประเภทที่สาม S = Steadiness
คนเหล่านี้ใส่ใจ เรื่องของความสัมพันธ์
ดังนั้นการพูดให้คนเหล่านี้ฟังควรจะต้อง
มีเนื้อหา เกี่ยวกับความสัมพันธ์ มิตรภาพ ใส่ใจความรู้สึกของผู้ฟัง
ลีลาและน้ำเสียง อ่อนโยน นุ่มนวล อบอุ่น
******************
ประเภทที่สี่ C = Conscientiousness
คนเหล่านี้ ใส่ใจเรื่องหลักการและเหตุผล
ดังนั้นการพูดให้คนเหล่านี้ฟังควรจะต้อง
มีเนื้อหา ข้อเท็จจริง หลักการทฤษฎี
ลีลาและน้ำเสียง สุขุมเยือกเย็น ช้าๆ มั่นคง
******************
กุญแจสำคัญ คือ
เราต้องสังเกต กลุ่มผู้ฟังให้ได้ว่า เป็นคนประเภทไหน
หากเราทราบได้ว่าเขาเป็นคนกลุ่มไหน
เราจะสามารถเลือกรูปแบบการพูดที่เหมาะกับพวกเขาได้
EP. 36: เนื้อหา ปะทะ ลีลา
หลายคนบอกว่า “เสริมจุดเด่นจะง่าย และใช้เวลาน้อยกว่าแก้ไขจุด
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าในแง่ของ
เพราะหากมองในแง่ขององค์ประ
เราจะพบว่า การพูดมีสามองค์ประกอบของหล
**************************
ผู้นำเสนอบางท่านมีความสามา
พวกเขามีคำพูดที่สละสลวย เห็นภาพชัดเจน หรือมีคำคม (แต่ลีลาและท่าทางไม่น่าสนใ
ถามว่าถ้าหากเขามีความโดดเด่นในด้านของการเลือกสรรคำ
ผู้ฟังก็ต้องการจะฟังอยู่มา
เช่น นักเขียนหลายท่าน เมื่อผันตัวเองมาเป็นนักพูด
แต่เนื้อหาในการพูดของเค้าจับใจผู้ฟัง
**************************
ผู้พูดบางคนอาจจะมีลีลาการใ
มีลีลาการใช้เสียงที่น่าดึง
แต่อาจจะไม่ได้มีเนื้อหาที่
ในหลายๆ ครั้งหากพิจารณาดูในเนื้อคว
เราจะพบว่าไม่ค่อยมีเนื้อหา
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้หรือว่าผู
เพราะเขามีน้ำเสียงและลีลาก
**************************
นักพูดหรือนักนำเสนอแต่ละคน
นักนำเสนอที่สุดยอด คือ ผู้ที่รวบรวมองค์ประกอบทั้ง
บอกได้เลยว่าการที่คนที่มีเ
หรือการคนที่มีน้ำเสียงหรือ
ก็นับเป็นความท้าทาย ที่ยากลำบากของเค้าเหมือนกั
ดังนั้นเมื่อเทียบเวลาแล้วก
ดังนั้นเราควรจะทราบว่าเรามีจุดเด่นด้านใด และพัฒนาจุดนั้นไปให้ไกลมาก
เพราะว่า “เสริมจุดเด่นจะง่ายและ ใช้เวลาน้อยกว่าแก้ไขจุดด้อ
แต่ถ้าหาก “เราไม่มีจุดเด่นเลย” เราจะทำอย่างไรดี? . . . รวมบทความครั้งต่อไป มีคำตอบครับ