THE FIVE LOVE LANGUAGES (พูดจา ภาษารัก)
“ชั้นทำดีที่สุดแล้ว ทำไมเธอไม่เข้าใจ ว่าชั้นรักเธอ”
ใกล้วัน วาเลนไทน์ แล้ว คุณเคยรู้สึกไหมครับว่า คุณสื่อสารกับคนที่คุณรัก แล้วไม่รู้เรื่อง แล้วเคยไหมครับ ที่รู้สึกว่า “เราพูดกัน คนละภาษา”
Gary Chapman ผู้เขียนชุดหนังสือ The 5 Love Languages Series – The New York Time Bestseller
บอกโลกใบนี้ว่า มนุษย์แต่ละคนมีภาษารักที่แตกต่างกัน 5 แบบ โดยจะมีภาษาหลักที่มีความสำคัญมากในการสื่อสาร เพียงหนึ่ง และภาษารอง 1-2 ภาษา
อยากรู้แล้วใช่ไหมครับว่า ภาษารัก มีแบบไหนบ้าง และผู้ใช้แต่ละภาษา ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดความขัดแย้ง เราจะง้อพวกเขาอย่างไร
1. คำพูด คือโลกทั้งใบ (Words of Affirmation)
“คำพูดให้คุณค่ากว่าการกระทำ” เป็นความเชื่อของพวกเขา
ผู้ใช้ภาษานี้เป็นคนที่ชอบการแสดงความรักผ่านคำพูด การพูดว่า “ฉันรักเธอ” นั้นสำคัญ
คนกลุ่มนี้ชอบให้มีคนพูดดีด้วย เช่น คุณเก่งมากๆ คุณสวยมาก คุณน่ารักมาก
ในทางกลับกันพวกเขาจะเกลียดมาก ถ้าหากได้ยินคำพูดเชิงลบ หรือ คำตำหนิ คำติเตียน
Tip: คำพูดเชิงบวก คือ มนต์แห่งความรัก ของคนกลุ่มนี้
หลังจากมีการโต้เถียง การง้อ ด้วยการพูดแสดงความเสียใจ เป็นสิ่งช่วยทำให้สถานการณ์ที่รุนแรงได้บรรเทาลง
2. ของขวัญแทนใจ (Receiving Gifts)
ผู้ที่ใช้ภาษานี้ มีมุมมองว่า “ของขวัญ เป็นตัวแทนของความรัก”
พวกเขาชอบที่จะได้รับของขวัญ ของฝาก เขาจะยิ้มแก้มปริ
การ surprise ที่เกิดจากของขวัญชื่นเล็กๆที่เกิดขึ้นในวันธรรมดา ไปจนถึง ของชิ้นใหญ่ที่ได้รับในวันสำคัญ
ภาษาท่าทางที่มอบและรับของขวัญ เช่น สีหน้า การสบตา รอยยิ้ม มีผลอย่างยิ่งกับพวกเขา เพราะสำหรับพวกเขาสิ่งนี้คือ การให้คุณค่าและความสำคัญ
ผู้ที่ใช้ภาษานี้ จะอารมณ์เสียอย่างมาก หากถูกละเลยในวันสำคัญ เช่นวันเกิด วันครบรอบต่างๆ
Tip: การมอบของขวัญ คือ สัญลักษณ์แห่งความรัก ของคนกลุ่มนี้
หลังจากมีความขุ่นเคืองกัน สถานการณ์จะฟื้นฟูได้รวดเร็ว หากงัอ ด้วยการมอบชองเล็กๆน้อยๆปลอบใจ หรือ แม้กระทั้ง เขียนข้อความขอโทษ
3. ฉันเป็นเพียงคน คนหนึ่ง ที่อยากดูแล (Acts of Service)
“การกระทำสำคัญกว่าคำพูด” เป็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่น
ผู้ที่ใช้ภาษานี้ มักไม่ค่อยพูดชม หรือ บอกรักหวานซึ้ง
แต่การได้ดูแล ช่วยเหลือ คนที่เขารัก เป็นการแสดงออกถึงความรักได้อย่างดีที่สุด
หากพวกเขารักใคร เขาจะทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มีเพื่อช่วยเหลือคนที่เขารัก
ไม่ว่าจะเป็นการช่วยทำงานง่ายๆ ไปจนถึง ระดับพ่อบ้านใจกล้า (ซักผ้า หุงข้าว ถูบ้าน)
คนกลุ่มนี้จะชอบดูแลผู้อื่น และได้รับการดูแลเช่นกัน
แต่จะเกลียดการไม่รักษาสัญญา การแสดงออกว่าขี้เกียจ ไม่ใส่ใจจะทำ หรือไม่เห็นคุณค่าความช่วยเหลือของพวกเขา
Tip: การดูแลเอาใจใส่ คือ การสร้างเสริมความรัก ของคนกลุ่มนี้
หลังจากทะเลาะกัน การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในทางที่ดีและรักษามันไว้ให้ต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในการง้อ
4. ขอให้โลกนี้มีแต่เรา (Quality Time)
“การมีเวลาดีๆ ร่วมกัน สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด”
สำหรับผู้ที่ใช้ภาษานี้ การใช้เวลาอยู่ด้วยกัน และทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น ดูหนัง ฟังเพลง ทานข้าว ไปเที่ยว เล่นกีฬา แบบไม่มีบุคคลอื่นๆ มารบกวน
นี่เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสำหรับพวกเขา พวกเขาให้คุณค่ากับการใช้เวลา ซึ่งรวมไปถึงคุณภาพและความเป็นส่วนตัวของการอยู่ร่วมกัน
พวกเขาจะรับไม่ได้กับ การไม่ตรงต่อเวลา การเลื่อนนัด การไม่ใส่ใจฟัง หรือการมีอย่างอื่นเข้ามารบกวนในขณะที่อยู่ตรงหน้า เช่น โทรศัพท์ ไลน์ หรือ มีคนมาคุยแทรก
Tip: การมีช่วงเวลาที่ดีร่วมกัน คือ กาวผสานความรัก ของคนกลุ่มนี้
หลังจากมีการปะทะกัน ขอให้ยึดหลัก “สยบทุกสิ่งด้วยความเงียบ” การฟังอย่างตั้งใจ ไม่พูดขัด พูดแทรก ทำแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
5. สัมผัสแห่งรัก (Physical Touch)
ฟังดูเหมือน สโลแกน ถุงยางอนามัย แต่ขอบอกว่า สัมผัสแห่งรัก ไม่ใช่แค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้น
ผู้ที่ใช้ภาษานี้จะชื่นชอบการสัมผัส แตะต้องร่างกาย เช่น โอบไหล่ ลูบหลัง ลูบหัว จับมือ กอด
พวกเขาไม่เคอะเขินที่จะแตะต้องร่างกายผู้อื่นต่อหน้าผู้คน เพราะพวกเชื่อว่านี่คือ การแสดงออกถึงความรักที่อบอุ่น
พวกเขาต้องการสัมผัสที่อ่อนโยนอบอุ่น แต่จะรู้สึกปิดกั้นและถอยห่าง หากเจอการสัมผัสที่รุนแรงก้าวร้าว หรือการละเลยเพิกเฉยต่อสัมผัสที่พวกเขามอบให้
Tip: การสัมผัสอย่างอ่อนโยน คือ กาวผสานความรัก ของคนกลุ่มนี้
ดังนั้นการจับมือ การโอบกอด คือการง้อ ที่ดีที่สุด
จาก ภาษารักทั้งห้า คุณจะลองสังเกตตัวเองดูนะครับ ว่าตัวคุณ มีภาษารักรูปแบบไหน?
และคนที่คุณรักเขาให้คุณค่ากับ ภาษารักรูปแบบไหน?
เมื่อคุณสื่อสาร ในสิ่งที่อีกฝ่ายให้คุณค่า ต้นรักจะงอกงามขึ้นอย่างรวดเร็วครับ
สรุปแล้ว คุณคิดว่า ภาษารักของคุณคือรูปแบบใดครับ?
สรุปและเรียบเรียง: สวรุส นภวงศ์ ณ อยุธยา
Resource:
Chapman Gary D., (2014). The 5 Love Languages singles edition. Chicago: Northfield.
www.5lovelanguages.com